
HOTLINE: +6684 522 2429
+6661 156 5453
Your Smile, Our Inspiration
รับจัดกรุ๊ปทัวร์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ,
กรุ๊ปเหมาหมู่คณะหรือส่วนตัว, ดูงานสัมมนา,
อีเว้นท์ (Event), จัดกิจกรรมนอกสถานที่ Walk Rally
รังสรรค์งานโดยทีมงานมืออาชีพ

German(เยอรมัน)

เมืองไฮเดลเบิร์ก (Heidelberg)
หนึ่งในเมืองสวยน่าเที่ยวของเยอรมนี “ไฮเดลเบิร์ก” ตัวเมืองตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเนคคาร์ มีปราสาทชื่อเดียวกับเมืองเป็นแลนด์มาร์ก และยังมีเขตเมืองเก่าที่กว้างใหญ่ มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี มีมหาวิหารใหญ่ ตึกรามบ้านช่อง สะพานหินเก่า ถนนสายปรัชญา และย่านช้อปปิ้ง รวมทั้งสวนในสมัยเรอเนสซองส์สุดสวยงาม ให้นักท่องเที่ยวได้เที่ยวชมกันอย่างจุใจ

เมืองไฟร์บวร์ก (Freiburg)
“ไฟร์บวร์ก” เป็นเมืองที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดในเขตป่าดำ ทางฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของเยอรมนี มีธรรมชาติงดงามสวยสดตลอดทั้งปี จัตุรัสใจกลางเมืองเป็นที่ตั้งของอาสนวิหารเก่าแก่ ที่ยอดหลังคามหาวิหารเป็นจุดชมวิวทั่วทั้งเมือง และยังมีระฆัง 19 ใบ ที่จะส่งเสียงตอนเที่ยงวัน มีตลาดประจำเมืองบรรยากาศสุดคึกคักมีชีวิตชีวามีร้านค้า โรงเบียร์ ร้านกาแฟ และร้านอาหารเมนูดั้งเดิมโดยเฉพาะไส้กรอกอร่อยขึ้นชื่อ

เมืองมิวนิก (Munich)
“มิวนิก” เป็นเมืองใหญ่ของแคว้นบาวาเรีย เป็นดินแดนที่มีวัฒนธรรมหลากหลายเปรียบเหมือนเป็น “หมู่บ้านของโลก” จุดเด่นๆ มีอยู่ทั่วทั้งเมือง ไม่ว่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์ สวนสวย สวนสาธารณะ โดยเฉพาะปราสาทนอยชวานชไตน์ในตำนานอันเลื่องชื่อ อาหารท้องถิ่นที่มีชื่อเสียง และแน่นอนคือเบียร์ชั้นดีที่คอเบียร์ชื่นชอบเป็นพิเศษ และหอนาฬิกาประจำเมืองที่มีตุ๊กตาเต้นระบำ ที่เป็นจุดเช็กอินสำคัญของเมือ

ยอดเขาซุกสปิตเซ่ (Zugspitze)
เชิญชวนทุกคนไปนั่งกระเช้าท้าความสูงไปสัมผัสลมหนาวบนยอดเขาที่สูงที่สุดในเยอรมันกัน ซึ่งที่นี่เป็นพรมแดนกั้นระหว่างรัฐบาวาเรียของเยอรมันกับรัฐทิโรลของออสเตรีย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเยอรมันวิวสวยที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์สุดปังครอบคลุมถึง 4 ประเทศ คือ เยอรมัน ออสเตรีย สวิตเซอร์แลนด์ และอิตาลี รวมถึงทะเลสาบไอบ์เซ่ (Eibsee) ที่งดงามอีกด้วย

ปราสาทนอยชวานชไตน์ มิวนิค (Neuschwanstein Castle)
ปราสาทที่มีชื่อเสียงติดอันดับต้น ๆ ของเยอรมัน กับความสวยงามของตัวปราสาทที่ตั้งอยู่ในเทือกเขาแอลป์ และยังเป็นต้นแบบของการสร้างปราสาทเทพนิยายเจ้าหญิงนิทราที่สวนสนุกดิสนีย์แลนด์ ตั้งอยู่ที่แถบแคว้นบาวาเรียของเมืองมิวนิค แถมยังมีความสวยที่แตกต่างกันไปในทุกๆฤดู เรียกได้ว่าไปช่วงไหนก็ได้รับความประทับใจพกกลับบ้านไปอย่างแน่นอน

แฟรงค์เฟิร์ต (Frankfurt)
จุดหมายปลายทางแรกของคนเดินทางไปเยอรมัน ส่วนใหญ่ก็จะมาลงที่สนามบินแฟรงก์เฟิร์ต ศูนย์กลางการคมนาคมที่สำคัญที่สุดของเยอรมัน และที่นี่ก็เป็นจุดศูนย์กลางการเดินทางโดยรถไฟเช่นเดียวกัน และยังเป็นศูนย์กลางทางการเงินด้วย เป็นเมืองที่ดูทันสมัยแต่ก็มีมุมเก่าแก่ที่ยังคงรักษาไว้ให้เราได้เที่ยวชม อย่างเช่น อาคารบ้านเรือนเก่าแก่ที่จัตุรัสโรเมอร์, มหาวิหารเซนท์บาร์โทโลมิว ที่เป็นสถาปัตยกรรมแบบโกธิค, โบสถ์เซนต์พอล เป็นต้น นอกจากนี้ใครอยากเที่ยวชมสวนดอกไม้สวยๆ ก็มีสวนพฤกษศาสตร์ให้ได้พักผ่อนหย่อนใจ

เมืองนูเรมเบิร์ก (Nuremberg)
ถ้าเพื่อนๆมีแพลนที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวยังประเทศเยอรมนีในช่วงเดือนสุดท้ายของปีแล้ว ก็ต้องห้ามพลาดแวะไปเก็บเกี่ยวบรรยากาศเทศกาลคริสต์มาสที่ตลาดคริสต์มาสในเมืองนูเรมเบิร์ก ซึ่งภายในตลาดนั้นเต็มไปด้วยร้านค้าที่ประดับด้วยของตกแต่งสำหรับเทศกาลคริสต์มาสมากกว่า 180 ร้านด้วยกัน และสิ่งที่คุณไม่ควรพลาด คือ ไวน์ผสมเครื่องเทศ หรือ Cinnamon-spiced mulled wine จิบคู่กับขนมปังขิงและไส้กรอกเยอรมัน! หลังจากนั้นก็เพลิดเพลินกับการเลือกซื้อของฝากกลับบ้าน

กรุงเบอร์ลิน (Berlin)
เพื่อนๆจะได้สัมผัสถึงร่องรอยแห่งอดีตทันทีเมื่อเข้ามาที่กรุงเบอร์ลินสถาปัตยกรรมอันงดงามเอาไว้มากมายหลายแห่ง และที่เราอยากจะแนะนำ คือ ประตูบรานเดนบวร์ก ซึ่งเป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมือง ที่ยังคงหลงเหลือเส้นแนวกำแพงเดิม เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เห็นถึงอดีตของสงคราม นอกจากนี้ เบอร์ลินยังมีศูนย์กลางความบันเทิงอย่าง หอโทรทัศน์แฟร์นเซทวร์ ที่อเล็กซานเดอร์พลาทซ์ซึ่งเป็นอาคารที่สูงเป็นอันดับ 2 ในสหภาพยุโรป ส่วนมากนักท่องเที่ยวจะนิยมขึ้นไปนั่งรับประทานอาหารกันบนนั้น

กำแพงเบอร์ลิน (Berlin Wall)
เป็นกำแพงที่ถูกสร้างขึ้นโดยฝั่งโซเวียต เป็นสัญลักษณ์ของสงครามเย็น ในปัจจุบันเป็นเขตอนุรักษ์ในพื้นที่กำแพงบางส่วนที่ยังหลงเหลืออยู่เท่านั้น แต่ยังรวมถึงหอสังเกตการณ์ ที่เราสามารถขึ้นไปชมวิวของเมืองได้ รวมไปถึงการเดินชมโบสถ์ใหม่ที่สร้างขึ้นแทนโบสถ์เก่าอย่าง Mitte ซึ่งจะปิดทำการในทุกๆ วันจันทร์ สามารถไปเที่ยวชมได้ ถ่ายรูปได้

ปราสาทไฮเดลเบิร์กและสะพานเมือง (Heidelburg castle and Old Town Bridge)
ปราสาทไฮเดลเบิร์กบางส่วนถูกทำลายไปบ้าง แต่ปราสาทแห่งนี้ยังคงความขลังตามแบบฉบับปราสาทสไตล์ยุโรป ซึ่งที่นี่เป็น 1 ใน landmark ที่มีชื่อเสียงที่สุดในเยอรมัน อย่าลืมที่จะเยี่ยมชม ที่ผิงไฟสไตล์ Renaissance ที่สวยงาม ในส่วนปีก Ruprecht, โบสถ์ประจำปราสาท, สวน Hortus Palarnnus (สวนแห่งนี้ไม่เคยสร้างเสร็จ แต่ก็เคยถูกจัดให้เป็น 1 ใน 8 มหัศจรรย์ของโลกมาแล้ว) ส่วนนอกปราสาทไปไม่ไกลก็มีสะพานประจำเมือง ที่สวยงาม เก่าแก่ และมีวิวสวยๆ เหมาะให้ไปเดินเล่น ดูวิว พักผ่อน สุดๆ ปราสาทไฮเดลเบิร์กบางส่วนถูกทำลายไปบ้าง แต่ปราสาทแห่งนี้ยังคงความขลังตามแบบฉบับปราสาทสไตล์ยุโรป ซึ่งที่นี่เป็น 1 ใน landmark ที่มีชื่อเสียงที่สุดในเยอรมัน อย่าลืมที่จะเยี่ยมชม ที่ผิงไฟสไตล์ Renaissance ที่สวยงาม ในส่วนปีก Ruprecht, โบสถ์ประจำปราสาท, สวน Hortus Palarnnus (สวนแห่งนี้ไม่เคยสร้างเสร็จ แต่ก็เคยถูกจัดให้เป็น 1 ใน 8 มหัศจรรย์ของโลกมาแล้ว) ส่วนนอกปราสาทไปไม่ไกลก็มีสะพานประจำเมือง ที่สวยงาม เก่าแก่ และมีวิวสวยๆ เหมาะให้ไปเดินเล่น ดูวิว พักผ่อน สุดๆ

สวนอังกฤษ (English Garden)สวนสวยใจกลางนครมิวนิก นับเป็นหนึ่งในบรรดาสวนสาธารณะกลางเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลก ภายในสวนพื้นที่กว่า 2,331 ไร่ ที่นี่เป็นทั้งสวนสาธารณะที่มีืทั้งแม่น้ำธรรมชาติไหลผ่าน ทะเลสาบ และน้ำตกเทียม มีแหล่งบันเทิง สถานที่พักผ่อน สถานที่ออกกำลังกาย เล่นกีฬาทางบกและทางน้ำ เป็นที่อยู่อาศัยของนก 50–60 สายพันธุ์ และมีเส้นทางสำหรับนักปั่นจักรยานเป็นระยะทางยาวถึง 75 กิโลเมตร

พระราชวังนิมเฟนเบิร์ก (Nymphenburg Palace) แลนด์มาร์กยอดนิยมของเมืองมิวนิค เป็นพระราชวังฤดูร้อนของราชวงศ์บาวาเรีย ตั้งอยู่ทางตะวันตกของเมืองมิวนิค ไฮไลท์ของพระราชวังแห่งนี้คือ แกลเลอรีรวมภาพหญิงงาม 36 นาง แห่งเมืองมิวนิกของกษัตริย์ลุดวิกที่ 1 (King Ludwig I's Gallery of Beauties) นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์รถม้า และพิพิธภัณฑ์ด้านวิทยาศาสตร์ ให้นักท่องเที่ยวได้เยี่ยมชมอีกด้วย

จัตุรัสมาเรียนพลาตซ์ (Marienplatz Square) จัตุรัสมาเรียนพลาตซ์ หรือ จัตุรัสพระแม่มารี เป็นจัตุรัสที่ใหญ่ที่สุด ตั้งอยู่ใจกลางเมือง และเป็นจุดเริ่มต้นการเดินชมเมืองที่ดีที่สุดในมิวนิก เป็นที่ตั้งของ “เสาพระแม่มารีทองคำ” (Marien's Column) ซึ่งเป็นที่มาของชื่อจัตุรัสแห่งนี้ อาคารที่เด่นเป็นสง่าตรงหน้าจัตุรัส คือ “ศาลาว่าการเมืองหลังใหม่” (New Town Hall) ที่มีหอคอยสูงกว่า 80 เมตรให้ขึ้นไปชมวิวด้านบน ในช่วงวันคริสต์มาสของทุกปี จัตุรัสจะกลายเป็นตลาดคริสต์มาสที่มีบรรยากาศสุดคึกคัก

พิพิธภัณฑ์เยอรมัน (Deutsches Museum)
ที่เที่ยวมิวนิกแห่งนี้ เป็นพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ถือว่าใหญ่ที่สุดในโลก เป็นหนึ่งในกลุ่มเกาะพิพิธภัณฑ์ กลางแม่น้ำอีซาร์ (Isar River) เป็นพิพิธภัณฑ์เก่าแก่ก่อตั้งโดยสมาคมวิศวกรรมแห่งเยอรมนี มีวัตถุจัดแสดงกว่า 28,000 ชิ้น ในสาขาต่างๆ ของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกว่า 50 สาขา โดยแบ่งออกเป็นโซน เข่น ห้องยานพาหนะที่มีทั้งเครื่องบินจริงและเครื่องบินจำลอง โซนรถยนต์ จัดแสดงรถโบราณตั้งแต่รถแท็กซี่ รถจักรยาน รถไฟจนถึงเฮลิคอปเตอร์

พระราชวังเรสซิเดนซ์มิวนิก (Munich Residence)
พระราชวังที่ใหญ่ที่สุดในเยอรมนี ตั้งอยู่ใจกลางนครมิวนิก พระราชวังแห่งนี้สร้างขึ้นในปี 1385 เป็นอดีตพระราชวังหลวงของราชอาณาจักรบาวาเรีย และเป็นที่ทรงงานชองกษัตริย์แห่งแคว้นบาเยิร์นมายาวนานกว่า 500 ปี ปัจจุบันถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์เก็บสะสมงานทางศิลปะ และเป็นคลังเก็บสมบัติของกษัตริย์โบราณ โดยมีห้องจัดแสดงถึง 130 ห้อง ส่วนด้านนอกมีบริเวณสวนที่สวยงาม ทะเลสาบ งานประติมากรรม มีมุมถ่ายภาพมากมายเลยทีเดียว

ตลาดวิคทูอาเลียน (Victuals Market) ตลาดวิคทูอาเลียน เป็นตลาดกลางแจ้งขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ที่จัตุรัสใจกลางนครมิวนิก โดยเป็นตลาดที่มีร้านค้าตั้งเรียงรายกว่า 140 ร้านค้า มีทั้งแผงขายอาหาร ดอกไม้ ผลไม้ เครื่องเทศ เนยแข็ง เบียร์ เบเกอรี และสินค้าท้องถิ่นอีกมากมาย รายล้อมด้วยอาคารเก่าแก่ที่มีสถาปัตยกรรมการสร้างแบบโบราณดั้งเดิม นับเป็นที่เที่ยวมิวนิกห้ามพลาด จะช้อปจะชิมก็ได้ตามอัธยาศัย หรือจะถ่ายรูปอย่างเดียวก็ไม่ว่ากัน เปิดบริการทุกวันยกเว้นวันอาทิตย์นะจ๊ะ

โฮฟบรอยเฮาส์ (Hofbrauhaus) ที่เที่ยวมิวนิก จุดหมายปลายทางในฝันของคอเบียร์ “โฮฟบรอยเฮาส์” เป็นโรงเบียร์เก่าแก่ของเมืองมิวนิกที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 1589 มีลักษณะเป็นห้องโถงใหญ่ที่ยังคงบรรยากาศเดิมๆ ไว้ทุกประการ มีโต๊ะอาหารให้บริการทั้งในและนอกร้าน มีดนตรีสดและการแสดงเต้นรำแบบพื้นบ้าน สร้างบรรยากาศสุดครึกครื้นขณะจิบเบียร์รสเลิศ ภายในโฮฟบรอยเฮาส์ยังมีพื้นที่ผลิตเบียร์ ซึ่งปัจจุบันจัดเป็นโรงแสดงเบียร์ให้นักท่องเที่ยวได้ชมขั้นตอนการผลิตเบียร์ที่ขึ้นชื่อของเยอรมันอีกด้วย

พิพิธภัณฑ์ศิลปะเก่า (Alte Pinakothek) “พิพิธภัณฑ์ศิลปะเก่า” หรือเรียกเป็นภาษาเยอรมันว่า “อัลเทอพีนาโคเทค” สร้างขึ้นในปี 1836 เป็นหอศิลป์ที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และเป็นหอศิลป์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป จัดแสดงงานสะสมที่มีคุณค่าของกษัตริย์ลุดวิกที่ 1 (King Ludwig I) และของสะสมของราชวงศ์วิทเทิลส์บัค (Wittelsbach) และภาพจิตรกรรมของศิลปินชื่อก้องโลก เช่น “เลโอนาร์โด ดาวินชี” (Leonardo da Vinci) ทิเชียน (Titian) ฮันส์บัลดุง (Hans Baldung) และ แรมบรันต์ (Rembrandt)

อุทยานโอลิมปิก (Olympic Park) อุทยานโอลิมปิก เป็นศูนย์กีฬาที่ทำหน้าที่เจ้าภาพกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 1972 ประกอบด้วย “สนามกีฬาโอลิมปิก” (Olympic Stadium) “ศูนย์กระจายเสียงแพร่ภาพนานาชาติ” (International Broadcast Center) โอลิมปิกฮอลล์ (Olympic Hall) หอคอยโอลิมปิก (Olympic Tower) และหมู่บ้านโอลิมปิก (Olympic Village) ปัจจุบันอุทยานแห่งนี้ถูกใช้เป็นสวนสาธารณะ และศูนย์ช็อปปิ้งสินค้าที่ระลึกของการจัดแข่งขันกีฬาโอลิมปิก

พิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ (Pinakothek der Moderne) พิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ที่ใหญ่ที่สุดในเยอรมนี เป็น 1 ใน 3 พิพิธภัณฑ์ของกลุ่มพีนาโคเทค (Pinakothek) ได้แก่ พิพิธศิลปะเก่า (Alte Pinakothek) และพิพิธภัณฑ์ศิลปะใหม่ (Neue Pinakothek) พิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ (Pinakothek der Moderne พื้นที่จัดแสดงแบ่งเป็น 4 ส่วนแยกเป็นพื้นที่สำหรับศิลปะ สถาปัตยกรรม การออกแบบ และศิลปะกราฟิก ซึ่งรวบรวมภาพพิมพ์และภาพวาดมากกว่า 400,000 ชิ้น คนรักงานศิลปะพลาดไม่ได้จริงๆ

มหาวิหารเฟราเอน (Frauenkirche) มหาวิหารเฟราเอน เป็นหนึ่งสัญลักษณ์ของเมืองนิวนิก เป็นโบสถ์คริสต์นิกายโรมันคาทอลิกที่เก่าแก่ ตั้งอยู่ในย่านเมืองเก่า ใกล้กับจตุรัสมาเรียนพลัทซ์ โดดเด่นสวยงามด้วยแบบโกธิกผสมกับเรอเนอซองส์ มีจุดเด่นคือ โดมหอมหัวใหญ่สีฟ้าเขียว 2 โดม ทางใต้ของมหาวิหารมีหอคอยแห่งฟาราเอนสูง 99 เมตร ด้านบนเป็นจุดชมวิวเมืองมิวนิกที่ถูกโอบล้อมด้วยเทือกเขาแอลป์ เป็นภาพที่สวยงามเกินคำบรรยาย

โบสถ์เซนต์ปีเตอร์ (St. Peter's Church)โบสถ์คริสต์เก่าแก่ตั้งอยู่บนเนินปีเตอร์สเบิร์ก (Petersberg) ใจกลางเมืองมิวนิก สร้างขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 11 สวยงามวิจิตรด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิก ไฮไลท์ของโบสถ์แห่งนี้ คือการขึ้นบันได 300 ขั้นของหอคอยของโบสถ์ ซึ่งชาวเมืองตั้งชื่อว่า "ผู้เฒ่าปีเตอร์" (Alter Peter) เพื่อชมวิวเมืองมิวนิกแบบพราโนรามา ในวันที่ท้องฟ้าเป็นใจอาจมองเห็นได้ไกลถึงเทือกเขาแอลป์เลยทีเดียว

อาคารบีเอ็มดับเบิลยูเวลท์ (BMW Welt)อีกหนึ่งแลนด์มาร์กของเมืองมิวนิค “อาคารบีเอ็มดับเบิลยูเวลท์” ตั้งอยู่ใกล้กับสำนักงานใหญ่ของบีเอ็มดับเบิลยูกรุ๊ป ( BMW Group) โดดเด่นด้วยอาคารทรงนาฬิกาทรายที่ตกแต่งด้วยกระจกรูปทรงเรขาคณิต ใกล้ๆ กันยังเป็นพื้นที่ของบีเอ็มดับเบิลยูสำนักงานใหญ่ (BMW Headquarter) และฐานการผลิต (BMW Group Plant) อีกด้วย นับเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวมิวนิกยอดนิยมที่คนรัก BMW ไม่ควรพลาดชม

อาหารที่ขึ้นชื่อในเยอรมัน
รูลาเดน (Beef Rolls, Rouladen)
Rouladen เป็นหนึ่งในสูตรอาหารเยอรมันสำหรับมื้อค่ำยอดนิยม จุดเด่นของอาหารประจำชาติเยอรมันเมนูนี้คือน้ำเกรวี่ที่ราดลงบนเนื้อม้วนที่ชุ่มฉ่ำ โดยจะใช้เนื้อวัวที่แล่เป็นแผ่นยาวบาง ๆ คลุกกับมัสตาร์ด ใส่เบคอน, หัวหอม และผักดอง ปิดไส้ด้วยการม้วนแถบเนื้อขึ้น จากนั้นนำเนื้อม้วนที่ได้ไปเคี่ยวช้า ๆ ในน้ำเกรวี่เข้มข้น จนได้เป็นสีน้ำตาลสวย เป็นเมนูอาหารเยอรมันที่รับประทานกันได้ตลอดทั้งปี แต่นิยมกันเป็นอย่างมากโดยเฉพาะในโอกาสพิเศษ เช่น วันคริสต์มาสอีฟ และมื้อค่ำของวันอาทิตย์

ชนิทเซิล (Breaded Cutlet, Schnitzel)
เป็นอาหารเยอรมันที่หลายคนลองแล้วจะต้องติดใจ อาหารประจำชาติเยอรมันเมนูนี้จะใช้เนื้อสัตว์ต่าง ๆ เช่น เนื้อลูกวัว, เนื้อแกะ, เนื้อวัว, ไก่งวง, เนื้อกวางเรนเดียร์ และเนื้อหมู นำมาทุบให้เป็นแผ่นแบน ๆ จากนั้นนำไปชุบแป้งผสมไข่และเกล็ดขนมปัง นำไปทอดให้เหลืองกรอบในน้ำมันร้อน ๆ เป็นเมนูอาหารเยอรมันที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศออสเตรีย โดยปรากฏครั้งแรกในเยอรมันเมื่อปลายศตวรรษที่ 19 และปรากฏในตำราอาหารในปี1831จนกลายมาเป็นอาหารประจำชาติเยอรมันในปัจจุบัน นิยมเสิร์ฟพร้อมกับสลัดมันฝรั่งและเลมอนฝาน

เมาตาเชิน (German Stuffed Pasta, Maultaschen)
อาหารเยอรมันที่มีต้นกำเนิดมาตั้งแต่ในช่วงศตวรรษที่ 17 ในภูมิภาคสวาเบียทางตะวันตกเฉียงใต้ของเยอรมัน ต้องบอกว่า Maultaschen นั้นเป็นเมนูอาหารประจำชาติเยอรมัน ที่ถูกนำไปใช้เป็นมื้ออาหารให้กับนักบินอวกาศชาวเยอรมัน ที่ได้เดินทางออกนอกโลกในปี 2018 กันด้วยค่ะ อาหารเยอรมันเมนูนี้ประกอบไปด้วยแผ่นแป้งพาสต้า สอดไส้ด้วยเนื้อที่คลุกเคล้าผสมกับเครื่องเทศ เสิร์ฟในน้ำซุปธรรมดาหรือผัดกับเนยและหัวหอมทอด โดยบางที่จะเลือกใช้เป็นเนื้อรมควันเพื่อให้ได้รสชาติที่หอมและเข้มข้นขึ้นไปอีก

ซาวเออร์บราเทน (German Pot Roast, Sauerbraten)
หากให้พูดถึงเมนูอาหารเยอรมันอันแสนยอดเยี่ยม หนึ่งในนั้นต้องมีอาหารประจำชาติเยอรมันอย่าง Sauerbraten แน่นอนค่ะ อาหารเยอรมันเมนูนี้ทำมาจากเนื้อที่หมักในน้ำส้มสายชูหรือไวน์ และเครื่องเทศ ภายใต้สภาวะเย็นจัดเป็นเวลาหลายวัน จากนั้นนำมาย่างก่อนที่จะนำไปปรุง เนื้อที่ผ่านการหมักจะมีความนุ่มและชุ่มฉ่ำไปด้วยรสเปรี้ยวที่กลมกล่อม ซึ่งแต่ละพื้นที่ก็มีการใช้เนื้อที่แตกต่างกันออกไป โดยสามารถเป็นได้ทั้งเนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อกวาง ไปจนถึงเนื้อม้าเลยทีเดียว

แคสเลอร์ (Salted and Smoked Pork, Kassler)
Kassler หรือหมูรมควัน เรียกได้ว่าเป็นส่วนเติมเต็มเพื่อทำให้อาหารเยอรมันมื้อกลางวันนั้นสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้นเลยล่ะค่ะ อาหารประจำชาติเยอรมันเมนูดั้งเดิมประจำเทศกาล “อ็อกโทเบอร์เฟสต์” (Oktoberfest) ที่มีชื่อเสียงของเยอรมัน โดยจะนำเนื้อหมูมาหมักและรมควันด้วยควันไม้ ซึ่งส่วนใหญ่มักใช้ส่วนของคอหมูและเนื้อสันใน เสิร์ฟพร้อมกับกะหล่ำปลีดองและมันฝรั่งบด หรือกับคะน้าและมันฝรั่งอบ ซึ่งนอกจากเนื้อหมูแล้ว ในร้านอาหารบางแห่งยังมี Kassler ที่ทำมาจากเนื้อไก่อีกด้วยค่ะ

เคอนิกส์แบร์เกอร์ คล็อปป์ (German Meatballs, Königsberger Klopse)
อาหารเยอรมันที่ตั้งชื่อขึ้นตามเมือง Konigsberg ในอดีต ซึ่งอยู่ทางตะวันออกของเยอรมัน ปัจจุบันคือเมืองคาลินินกราด (Kaliningrad) ของรัสเซีย โดยอาหารประจำชาติเยอรมันที่มีชื่อเสียงเมนูนี้ รู้จักกันในอีกชื่อว่า “Soßklopse” สูตรดั้งเดิมจะทำจากเนื้อลูกวัวสับละเอียดและปลาแองโชวี่ พร้อมด้วยหัวหอม, พริกไทยขาว และเกล็ดขนมปังเล็กน้อย นำไปเคี่ยวในน้ำซุป เมื่อสุกแล้วนำมาราดด้วยซอสครีมเคเปอร์ นิยมเสิร์ฟพร้อมกับบีทรูทและมันฝรั่งต้ม หรือกับข้าว

ฟลาเมคูเอเช่ (Tarte Flambee, Flammekuechen)
อาหารประจำชาติเยอรมันที่เป็นเอกลักษณ์นี้ มีต้นกำเนิดมาจากเกษตรกรในภูมิภาค Bas Rhin, Alsace และ Palatinate ซึ่งมักจะอบขนมปังสัปดาห์ละครั้ง ประกอบไปด้วยแป้งขนมปังที่รีดเป็นแผ่นบาง ๆ เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าหรือวงรี จากนั้นทาด้วยชีสสด Fromage blanc หรือครีมเปรี้ยว crème fraîche โรยด้วยหัวหอม, พริกไทย และเบคอน แล้วนำไปอบ หน้าตาก็จะดูคล้ายพิซซ่าอยู่พอสมควรเลยทีเดียวค่ะ แต่ตัวแป้งจะค่อนข้างบางและกรอบกว่านอกจากนี้หน้ายังมีรูปแบบอื่น ด้วย เช่น Gratinee กับชีส Gruyere หรือ Munster กับชีส Munster และสามารถทำเป็นแบบหวานโดยใช้แอปเปิ้ลก็ได้

Kurfürstendamm
https://maps.app.goo.gl/kU2FMMWBEkbqsuBV9

Friedrichstraße
https://maps.app.goo.gl/ezdQkVnzdJgrcSZG7

Neuer Wall
https://maps.app.goo.gl/JK264KZA9triYdqT8


Ingolstadt Village
https://maps.app.goo.gl/MMf5iCSuSYiWFjGg7
