top of page

ใครไม่ตง..เบตง!!! แฮ่

สวัสดีค่ะทุกคนวันนี้พีซพาทุกคนมาเที่ยวอำเภอที่อยู่ใต้สุดของประเทศไทยค่ะ จะเป็นอำเภออะไรไปไม่ได้นอกจาก “เบตง” ค่ะ

วันนี้พีซนั่งสายการบินไทยสมายมาลงที่สนามบินหาดใหญ่ และขับรถต่อไปที่เบตง ใช้เวลาขับรถประมาณ 4.30 ชม.

แต่ก่อนจะถึงเบตงพีซแวะไหว้ขอพระหลวงปู่ทวดที่วัดช้างให้เอาฤกษ์เอาชัยก่อนเดินทางท่องเที่ยวค่ะ

จากนั้นแวะชมมัสยิดกลางปัตตานี

พอถึงเบตงก็ขอแวะเดินเที่ยงชมเมืองสักหน่อยค่ะ

นี่คือ หอนาฬิกาเบตง

เบตงขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งสายหมอก เราก็มาดูหมอกกันค่ะ

พีซมาชื่นชมทะเลหมอกอัยเยอร์เวง จุดชมทะเลหมอกสุดฮิตไม่มาไม่ได้ค่ะเพราะสวยจริงๆ ใครจะมาช่วงไหนก็ได้ดูหมอกแบบนี้เหมือนกันนะคะเพราะมีทะเลหมอกตลอดทั้งปีค่ะ

หมอกหนามากๆๆๆๆ

เราไปต่อกันที่อุโมงค์ปิยะมิตร สมัยก่อนเป็นที่แห่งนี้เป็นฐานเคลื่อนไหวทางการทหารของพรรคคอมมิวนิสต์มลายาใช้หลบการโจมตีทางอากาศและสะสมเสบียงในปัจจุบันได้เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยว เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.00 - 16.30 น. ที่นี่มีต้นไม้พันปีให้ดูด้วยค่ะใหญ่และสวยมากๆ

ที่นี่มีต้นไม้พันปีให้ดูด้วยค่ะใหญ่และสวยมากๆ ที่นี่มีต้นไม้พันปีให้ดูด้วยค่ะใหญ่และสวยมากๆ

ในที่ต่อมาเราไปที่สวนหมื่นบุปผา เป็นสวนดอกไม้เมืองหนาวแห่งเดียวในภาคใต้ ที่นี่สวยมากๆค่ะมีดอกไม้ให้เราได้ชมตลอดปี

อากาศที่เบตงดีมากเหมือนอยู่ภาคเหนือทำให้พีซอดนึกที่จะอยากไปบ่อน้ำร้อนไม่ได้เลยค่ะ พีซไปที่บ่อน้ำร้อนเบตง ที่นี่เป็นบ่อน้ำร้อนที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ มองดูแล้วอยากลงไปแช่เลยค่ะ

เริ่มหิวแล้วเราหาอะไรลองท้องกันดีกว่าค่ะ ของเด็ดของที่นี่เลย “เฉาก๊วยเบตง” คนที่นี่เรียกว่า “วุ้นดำ” เฉาก๊วยที่นี่ไม่เหมือนใครเลยค่ะ หนุบหนับนุ่มลิ้นสุดๆค่ะ

อิ่มแล้วมีพลังถ่ายรูปกันต่อค่ะ แวะเช็คอินจุดแลนด์มาคใหม่ล่าสุดของเบตงกันหน่อยค่ะ “สนามบินเบตง” สนามบินที่ตกแต่งด้วยไม้ไผ่ เพราะว่าเบตงเป็นภาษามลายูหมายถึง “ไม้ไผ่” ในอดีตที่นี่มีไม้ไผ่มาก การเอาไม้ไผ่มาตกแต่งสนามบินทำให้สื่อถึงความเป็นเบตงมากๆเลยค่ะ

และแล้วพีซก็ได้มายืนจุดนี้ค่ะ สุดเขตชายแดนภาคใต้เขตติดกับประเทศมาเลเซีย

bottom of page