top of page

#t2gojourney #peaceblog #georgia

กลับมาอีกแล้วนะคะกับ #peaceblog

ฤกษ์งามยามดี วันนี้พีซจะพาทุกคนไปเที่ยวที่ ‘ประเทศจอร์เจีย’ประเทศที่อยู่สุดขอบของทวีปเอเชีย มีบรรยากาศดีแบบยุโรป มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ป่า เขา แม่น้ำและสิ่งที่พิเศษเลยคือ ประเทศนี้ ‘free visa’ สำหรับคนไทย 365 วันเต็มๆและค่าครองชีพก็เรียกได้ว่าไม่ต่างกับประเทศไทยเราเท่าไหร่

พีซได้มีโอกาสไปจอร์เจียในช่วงปีใหม่ 2019-2020
ไปกับสายการบิน Turkish Airlines ขึ้นที่สนามบินสุวรรณภูมิ
และไปต่อเครื่องที่อิสตันบูล ตุรกี จากไทยไปยังอิสตันบูลใช้เวลาเดินทาง 10ชั่วโมง 55 นาที
และได้ต่อเครื่องจากอิสตันบูล ไปยังจุดหมายคือเมืองหลวงทบิลิซี (Tbilisi) ใช้เวลาประมาณ 2ชั่วโมง 25นาที

ทุกคนที่เข้าประเทศจอร์เจียในช่วงนี้จะได้รับไวน์คนละขวด

และจัดการซื้อซิมที่ใช้ในประเทศที่นี่

เราได้เช่ารถกับ sixt ราคา $684.97 สามารถรับและคืนรถที่ Tbilisi International Airport

วันแรก หลังจากรับรถมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ก็ทำการ check-in เข้าที่พัก เราพักที่ Tiflis Palace ราคาอยู่ที่ 600.81 GEL
โรงแรมจะให้ความรู้สึกคล้ายๆปราสาทเก่า ถ้ามองออกไปก็จะเห็นกระเช้าลอยฟ้า แสงแดดอ่อนๆ ให้บรรรยากาศที่ Ver Ver VerVerVer

วิวของที่ห้องมองออกไปสวยมาก ประหนึ่งดินแดนเทพนิยาย

ร้านนี้เรียกได้ว่าเป็นร้านเด็ดเลยนะ

เข้าที่พักแล้วก็ได้ไปทานข้าวกลางวันกันที่ร้าน სამიკიტნო

เก็บของในที่พักเรียบร้อยแล้ว กินข้าวเสร็จลังจากนั้นก็ไปเดินชมเมือง
ด้วยความที่โรงแรมติดกับกระเช้าก็พลาดไม่ได้ที่จะไปลองสัมผัสกับบรรยากาศชิลๆ
ไปยังจุดชมวิว ที่สามารถมองเห็นได้รอบเมือง

ขึ้นมาข้างบนจะพบกับอนุสาวรีย์พระแม่แห่งจอร์เจีย (Mother of Georgia หรือ Kartlis Deda) อนุสาวรีย์นี้สร้างขึ้นด้วยอลูมิเนียม สูงกว่า 20เมตร
สวมชุดพื้นเมือง มือขวาถือดาบ มือซ้ายถือแก้วไวน์

อีกแลนด์มาร์กก็คือ สะพานแห่งสันติภาพ (The Bridge of Peace)

และยังมีมุมต่างๆรอบเมือง แบบดีทุกมุมเลยสวยมากกกกก

หลังจากเดินเที่ยวในเมืองจนเหนื่อยแล้วก็กลับมาที่พักทานข้าวของที่โรงแรมเลย

วิวดีม้าก เมื่อมองออกไปยามค่ำคืน
และก็กลับเข้าที่พักพักผ่อนน

จากร้านอาหารมองออกไปสวยเลยยย

วันที่สอง ก่อนจะไปนอกเมือง ไปป้อมปราการนาริ กาลา (Narikala Fortress) ที่อยู่ข้างโรงแรมก่อน
ป้อมปราการนี้ เป็นป้อมปราการที่สำหรับปกป้องเมืองในสงคราม ที่ตั้งโดดเด่นอยู่บนยอดเขา ถูกสร้างขึ้นเพื่อปกป้องกรุงทบิลิซีจากการรุกรานของศัตรู

จากนั้นก็ไปยังปราสาท Jvari Monastery Mtskheta

ที่นี่อยู่ติดกับแม่น้ำสายสำคัญ

หลังจากนั้นก็ได้ขับรถออกไปนอกเมืองระหว่างทางที่ไป วิวสวยมากกกก หิมะนี่ขาวโพลน

พีซได้ไปเจอเมืองกุดาอุรี (Gudauri) ซึ่งอยู่นอกโปรแกรมเที่ยวครั้งนี้ ขึ้นไปเจอ ski resort ได้ไปซื้อกระเช้าชมวิว

Map ตำแหน่งของเรา เลยบอกว่าเราอยู่จุดไหนแล้ว

วิวกระเช้า สวยๆมั้ยย

ที่นี่กระเช้าจะมี 3 step ขั้นแรกขึ้นกระเช้าเพื่อไปยังจุดต่อไป ต้องลงเดิน

ฟิล์มสักหน่อย

ขึ้นกระเช้าเพื่อไปยังจุดสุดท้าย

มาถึงแล้ว เห็นสกีแล้ว

วิวขาลงก็ปั๊วะอยู่นะ

มีเรื่องจะเล่า...
พีซจะไปขึ้นเขา....แต่ไปไม่ถึงเพราะถนนลื่นมาก ไม่ได้ใส่โซ่ที่ล้อรถลื่นเกือบตกเขาแหน่ะ ตอนที่รถจะตกเขามีคนจอร์เจียมาช่วยขับรถแทน ให้รถไม่ตกเขา โดยจ่ายให้เขา 3000฿
ค่าที่ให้เขาขึ้นมาขับรถและใส่โซ่ที่ล้อให้ แต่พอขับมาไม่ถึง 1k.m. ก็ถึงทางปกติ เลยเอาโซ่ที่ล้อออก
คุ้มไหมเอ่ยย แต่พีซว่าคุ้มนะ555555

ก่อนจะเข้าโรงแรมผ่านเมืองก่อนแวะเพื่อหาอะไรกินสักหน่อย

วิวโรงแรมจะเป็นภูเขา ที่พีซเกือบไปตกมานั่นแหละ

แต่อาหารยังไม่ค่อยถูกปาก เลยออกไปหา Local food กินไปเจอร้านขนมปังโฮมเมดแบบสดๆออกจากเตาเลย

แล้วก็กลับโรงแรมเลยพีซพักที่ Hotel kazbegi

ทานข้าวเย็นที่โรงแรมเลย มื้อนี้จะเป็นอาหารแบบ A lacart

อันนี้จะเป็น supermarket
.
อิ่มอร่อยกลับเข้าที่พัก นอนสบาย 

วันที่สาม
พระอาทิตย์จะขึ้นช่วง 8โมงแล้ว
เช้ามากิน Breakfast ที่โรงแรม อาหารที่โรงแรมเป็นแบบบุฟเฟต์

วิวจากร้านอาหาร

วิวที่โรงแรมก็ดีไม่น้อยเลย

ถนนที่จะออกนอกเมืองของเค้าก็งามเด้อสู

และระหว่างทางเจอวิวที่สวยมากกอดใจที่จะแวะถ่ายรูปไม่ได้เลย

และที่นี่มีบริการเช่าสกี เพื่อพาชมวิวด้วยนะ
แต่เขาจะบริการขับให้เราเลย

หลังจากนั้นก็ขับรถไปที่ Russia - Georgia Friendship Monument หรือ อนุสรณ์สถานรัสเซีย-จอร์เจีย
เป็นอนุสรณ์หินคอนกรีตทรงกลมขนาดใหญ่ ทำขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสครบรอบ 200 ปี ของสนธิสัญญา Georgievsk ข้างในจะบอกเล่าประวัติศาสตร์ของชาวรัสเซียและจอร์เจีย

จุดถ่ายรูปของที่นี่

จุดตรงนี้ถ้าหิมะไม่ตก จะเป็นฟีลคล้ายๆตลาดเลย พี่คนขับสกีบอกมา

เสร็จจากสกีแล้ว ขับมาเรื่อๆยจะเจอ Viewpoint อยู่ข้างทาง ชื่ออะไรไม่รู้พีซก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน

ระหว่างทางเจอแม่น้ำ แต่แปลกที่นี่น้ำไม่ค่อยเย็น น่าจะเป็นเพราะไม่ค่อยมีหิมะแล้วก็เป็นได้

ป้อมอนานูริ (Ananuri Fortress Complex)
ป้อมปราการเก่าแก่ ที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่   16-17 ทำหน้าที่เป็นป้อมปราการและปราสาทของราชวงศ์

โบสถ์สเวทิชโคเวลิ (Svetitskhoveli Cathedral) เป็นที่ยอมรับโดยยูเนสโกจัดให้เป็นมรดกโลกและเป็นโบสถ์ใหญ่เป็นอันดับสองในจอร์เจียอีกด้วย

ข้างๆโบสถ์แห่งนี้จะเป็นร้านขายของที่ระลึก มีหลายร้านเลย

ระหว่างทางจะไปโรงแรม เราได้เจอ Memorial of Georgian Warrior heroes by the Gori Fortress in Gori สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงจิตวิญญาณนักสู้ และความกล้าหาญของเหล่านักรบจอร์เจีย

วันนี้ฝากท้องที่ ร้านอาหาร PALATY เป็นร้าน local food รสชาติเด็ชมากค่ะ

หลังจากอิ่มแล้วก็เข้าที่พัก
พักที่ Best Western Kutaisi
เป็นโรงแรมที่ดี แต่พีซไม่ได้ถ่ายรูปไว้เลย เสียดายเฟ่อออ
.
.
งั้นเอาเป็นว่าสำหรับ 3 วันแรกเที่ยวจอร์เจียพอแค่นี้ก่อนน้า
เดี๋ยวมาต่อ ep.หน้า
ฝากติดตามด้วยค่า

bottom of page